หลอมเกราะปกป้องร่างกาย

ในงาน Asia Fitness convention (AF) ประจำปีนั่ ซึ่งจัดขึ่นในกรุงเทพฯ

ผมได้รับเกียรติให้เข้าร่วมฟังการอภิปรายของคุณปีเตอร์ ทวิสต์ เรื่อง How to

Build Your Body Armour: The Art of Fascial Line Training ซึ่งเป็นรูปแบบ

การเทรนที่กำลังมาแรงในแวดวงฟิตเนส

ปีเตอร์ ทวิสต์ ในฐานะกูรูด้านการพัฒนาสมรรถภาพร่างกาย

เพื่อการเล่นกีฬและการเทรนแบบเน้นฟังก์ชั่น ได้ช่วยให้ความรู้เพื่อให้ใค้ชและเทรนเนอร์สามารถนำหลักการของวิธีการเทรนแนวนี้ไปใช้พัฒนาร่างกายลูกค้า ในด้านการสร้างความมั่นคงให้ร่างกาย การเคลื่อนไหวความแข็งแรง การเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อและทักษะการเล่นกีฬ

ผมเองสนใจศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ความฟิตและสมรรถภาพร่างกาย และหาวิธี

นำความรู้เหล่านั้นไปแนะนำลูกค้าเพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อชีวิตของคนเราหลายๆ ด้านครับ ถ้าร่างกาย

ของเราทำงานได้ดีขึ้น เราจะทำสิ่งที่รักได้มากขึ้น มีโอกาสออกไปสำรวจโลกได้มากขึ้น สนุกสนานกับ

การใช้ชีวิตอย่างแอกทีฟ สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้เรามีพละกำลังและทัศนคติที่ดีมากขึ้น ซึ่งสามารถส่งผ่านไปยังคนรอบข้างได้ ในทางกลับกันถ้าร่างกายทำงานได้ไม่ดี เราจะรู้สึกว่าโลกใบนี้คับแคบลงเรื่อยๆ ไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้ร่างกาย ซึ่งย่อมส่งผลต่อคนรอบข้างเราด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นเพื่อนครอบครัวลูกหลาน และคนที่เราห่วงใย

แต่ชีวิตคนเราไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นครับ เราสามารถเสริมสร้างร่างกายให้กลับมาดีได้ โดยเฉพาะในส่วนของระบบเนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อ หรือที่เรียกว่าพังผืดเพื่อเป็นเกราะอันแข็งแกร่งที่คอยปกป้องร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าถ้าเรามีระบบเนื้อเยื่อพังผืดแข็งแรงและยึดหยุ่นได้ดี เราจะมีความมั่นใจมากขึ้นในการเคลื่อนไหวและออกไปสำรวจสิ่งต่างๆ ในโลกกว้าง

คุณปีเตอร์ ทวิสต์บอกย้ำว่าก่อนจะเรียนรู้วิธีการเทรนระบบเนื้อเยื่อพังผืดนั้น เราต้องจำไว้ให้ดีก่อนว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดนั้นต้องใช้งานทั้งกล้ามเนื้อ พังผืด หัวใจ และปอดโดยจะทำงานสอดคล้องกันเป็นระบบเดียว คำถามก็คือถ้าอย่างนั้นเราจะจัดระเบียบร่างกายอย่างไรเพื่อกระตุ้นการใช้งานระบบเนื้อเยื่อพังผืดให้มากขึ้นเพื่อให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้น อย่างแรกคือเราต้องรู้วิธีควบคุมกลไกการทำงานของร่างกายจากนั้นค่อยกระตุ้นให้ตัวแปรต่างๆทำงานหนักมากขึ้นจนกระทั่งระบบเนื้อเยื่อพังผืดต้องทำงานเพื่อให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น

ระบบเนื้อเยื่อพังผืด

เราเรียนรู้มาตลอดหลายปีแล้วว่าร่างกายคนเรามีระบบที่ทำงานแยกจากกันเป็นจำนวนมาก และมีอวัยวะส่วนต่างๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วร่างกายของมนุษย์เป็นระบบที่มีเอกภาพเหมือนกับต้นไม้รากดันไม้ทำหน้าที่ดูดสารอาหารมาหล่อเลี้ยงและทำให้ต้นไม้ยืนต้นอย่างมั่นคง ส่วนใบไม้ทำหน้าที่หายใจและสร้างพลังงาน ร่างกายมนุษย์ก็เช่นกัน ระบบกระดูก ระบบกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืด ระบบทางเดินหายใจ และระบบประสาทจะต้องทำงานร่วมกันเสมอ

แล้วระบบเนื้อเยื่อพังผืดคืออะไร มันก็คือเครือข่ายเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่มีลักษณะคล้ายใยแมงมุม

โอบล้อมกล้ามเนื้อ อวัยวะ ข้อต่อและกระดูก เนื้อเยื่อพวกนี้มีลักษณะอ่อนนุ่ม ทำจากเส้นใยคอลลาเจน

เหมือนกับเล็บนิ้วมือ ทว่าแข็งแรงและทนทานอย่างเหลือเชื่อ มันสามารถรับแรงดึงและต้านทานแรงกระทำได้มากเพื่อทำให้ข้อต่อมั่นคง หน้าที่หลักของระบบเนื้อเยื่อพังผืดคือการรับรู้ตำแหน่งของส่วนต่างๆ ในร่างกาย มันสามารถรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับแรงดึง การสั่นสะเทือนและการยืดเหยียด ช่วยให้ร่างกาย

กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อที่เหมาะสม และทำให้เราเคลื่อนไหวได้ในหลายทิศทาง

ทดลองเล่นสล็อตฟรี

เมื่อทราบลักษณะและความสำคัญของระบบเนื้อเยื่อพังผืดแล้วคำถามต่อมาคือเราจะทำอะไรกับ

มันได้ และมันจะส่งผลต่อการเทรนของเราอย่างไรบ้างการทำความเข้าใจระบบเนื้อเยื่อพังผืดช่วยให้เราเห็นแนวเนื้อเยื่อพังผืดต่างๆ ในร่างกายได้ชัดเจนขึ้น และสามารถนำเทคนิคต่างๆ มากระตุ้นแนวเนื้อเยื่อ

หลายส่วนให้ทำงานหนักมากขึ้นเพื่อให้ร่างกายปรับตัวให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของเรานั่นเอง

เทคนิคการเทรนเนื้อเยื่อพังผืด

ตัวแปร 5 อย่างที่ต้องคำนึงถึงในการเทรนแนวเนื้อเยื่อพังผืดมีดังนี้ครับ

1. ความหนักของน้ำหนักที่แบกหรือยก

2. ความยาวหรือช่วงการเคลื่อนไหว

3. ความชับซ้อนของระบบประสาทที่ใช้ในการเคลื่อนไหว

4. ความเร็วในการเคลื่อนไหว: ทำช้าๆ เพื่อความมั่นคงและทำให้เคลื่อนไหวได้ดี / ทำเร็วๆ เพื่อสร้างพลัง

5. แรงจัด: แนวทางการเคลื่อนไหวของมือ หรือการเคลื่อนไหวแนวโค้งเทียบกับฐานรองรับ