วิตามินบีสอง

เมื่อครั้งยังเต็กผมจำผิด ๆ มาตลอดว่าวิตามินบีสองเกี่ยวกับนกกระจอก คิดเอาเองว่าขาดวิตามินนี้แล้วจะเป็นโรคที่ทำให้ปากเจ่อ แหลมๆ เล็กๆ เหมือนนกน้อยที่ชายคาบ้านพอโตขึ้นมารู้ความจริง อ้าว! แผลมุมปากนี่นา ความอายผลักดันให้เด็กมัธยมคนหนึ่งเดินเข้าห้องสมุดค้นวิชาการเรื่องวิตามินบีสองหรือไรโบฟลาวิน เสริมปัญญา ปัตเป๋าความเขลาออกไปจากสมอง

บีสองเป็นวิตามินที่เราต้องการเพียงเล็กน้อย ร่างกายแทบจะไม่

ตุนไว้เลย จึงต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น ซึ่งหากรับประทานอาหารตามปกติจะไม่พบว่ขาดเลยครับโดยวิตามินนี้พบได้ทั่วไปทั้งในน้ำนมเนื้อสัตว์ ผักใบเขียว เรียกได้ว่าสิ่งมีชีวิตเกือบทุกชนิดมีวิตามินนี้ไว้ใช้ดำรงชีวิต อย่างมนุษย์เองก็ใช้วิตามินบีสองเป็นวัตถุดิบสร้างสารชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อกระบวนการ

เผาผลาญสารอาหารให้พลังงานทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมันใช้ในการสังเคราะห์วิตามินบีหกกลูตาไขโอน และวิตามินบีสามหรือไนอาชิน ที่ผู้อ่านชาว MH บางท่านน่าจะคุ้นๆ บ้างจากเครื่องดื่มก่อนออกกำลังที่ทำให้หน้าแตง ร้อนวูบๆและเมื่อไม่กี่ปีมานี้เพิ่งพบว่าสารที่ว่านี้มีบทบาทสำคัญในดวงตาและการนอน คือเป็นส่วนประกอบของตัวตรวจจับแสงสีฟ้าในจอตาชั้นใน ทำหน้าที่เกี่ยวกับวงจรนาฬิกาชีวภาพและการรับรู้กลางวันกลางคืนอีกด้วย

อาการแสดงของการขาดวิตามินบีสองมักออกที่เนื้อเยื่ออ่อนคือ ปากแตก มุมปากเป็นแผล

หนักเข้าอาจไปโผล่ที่บริเวณร่องแก้มอัณฑะ อวัยระเพศภายนอกของผู้หญิงได้ด้วย แต่เอาเข้าจริงแล้ว

อาการทางผิวหนังที่ว่าค่อนข้างแยกได้ยากกับการขาดวิตามินบีอื่นๆแถมโดยมากจะขาดวิตามินอื่นๆ

ร่วมด้วยเสมอ มักพบในผู้ปวยที่มีภาวะการดูดซึมสารอาหารบกพร่องหรือติดเหล้าอย่างหนัก เนื่องจากชัดแต่ยอดข้าว ไม่ค่อยกินข้าวกินปลาจึงไม่แปลกที่จะเห็นผู้ป่วยติดเหล้าได้รับวิตามินบีคอมเพล็กซ์วิตามินบีสอง รวมถึงกรดโฟลิกติดไปในถุงยารักษาโรคแอลกอฮอลิซึมด้วย

สล็อต

ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจของวิตามินบีสองคือ มีคนไปสังเกตว่าคนที่เกือบจะขาดวิตามินบีสองมักจะต้านทานโรคมาลาเรียได้ดีกว่าพบตัวเชื้อ Plasmodium falciparum ต้นเหตุมาลาเรียในร่างกายน้อยกว่าสันนิษฐานว่าเชื้อปรสิตนี้ต้องการวิตามินมาบำรุงบำเรอตัวมันด้วยเมื่อไม่พอเลยไม่ค่อยโต เรื่องนี้

แต่ก่อนนักวิจัยสนใจกันพอสมควรถึงขนาดจะพัฒนาเป็นยารักษาทว่าจนทุกวันนี้ยังเงียบ ทั้งที่

สถานการณ์การดื้อยามาลาเรียกำลังจะวิกฤตแล้ว อย่างในบางพื้นที่ของกัมพูชาถึงขนาดไม่มียารักษาที่ได้ผลแล้วครับ

ด้านความเป็นพิษของวิตามินบีสอง กล่าวได้ว่าไม่มีรายงานใดๆ พูดถึงมาก่อนเลยครับ

เหตุผลแรกคือไม่มีใครอุตริกินเยอะก็ด้วยสีออกเหลืองอ๋อยขนาด หรือต่อให้รับประทานเข้าไปเป็นกำมือ

ร่างกายก็สามารถดูดซึมได้ไม่เกิน 30 มิลลิกรัม ส่วนที่ผ่านเข้าเลือดไปได้ ร่างกายก็จะรีบขับส่วนเกิน

ทิ้งไปทางปัสสาวะภายในไม่กี่ชั่วโมงดังเห็นได้จากทุกครั้งที่รับประทานอาหารเสริมที่มีวิตามินบีสองเข้าไปปัสสาวะจะเป็นสีเหลืองเข้มอย่างชัดจนราวกับใส่สีผสมอาหารนั่นเพราะอนุพันธ์ของวิตามินบีสองจัดเป็นสีผสมอาหารที่ปลอดภัยเหมือนกัน ว่างๆ ลองสังเกตฉลากอาหารดูสิครับ หากเจอรหัส E101นั่นล่ะ อาหารห่อนั้นต้องปรุงแต่งสีเหลืองด้วยวิตามินบีสอง และนำส่งขายในสหภาพยุโรปครับ

อย่างไรก็ตามว่ากันตามทฤษฎีทางเคมีอินทรีย์แล้ว โครงสร้างทางเคมีของวิตามินบีสองนี้ค่อนข้างว่องไวต่อปฏิกิริยาทางเคมี แพ้ทางแสงยูวีและความเป็นด่าง ก่อเกิดเป็นอนุมูลอิสระได้ไม่ยาก พร้อมจับอิเล็กตรอนว่างงาน แบบเดียวกับที่ทำหน้าที่จับอิเล็กตรอนในกระบวนการเผาผลาญระดับเซลล์มาแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานให้ร่างกายใด้ใช้ในทุกวินาทีจะนั้นหากมีวิตามินบีสองมากเกินความจำเป็น เอามาผลิตใช้งานไม่ทัน ตัววัตถุติบที่เหลือ ที่อยู่นอกกรอบนอกแถว ชาดการควบคุมก็อาจเกิดปฏิกิริยาทำลายล้างสร้างอนุมูลอิสระเสียเอง และก่ออันตรายแก่ร่างกายให้ ดังที่บางตำราแนะนำว่าสำหรับผู้ป่วยต้อกระจกไม่ควรรับประทานวิตามินบีสองเกินวันละ 10 มิลลิกรัมครับ

นี่ล่ะครับความชาญฉลาดของร่างกายมนุษย์ ในเมื่อมากเกินไปจะเกิดโทษ จึงจำกัดการนำเข้าขอวันละนิดละหน่อย พอใช้แค่พอเพียง อย่างนี้ล่ะดีแน่ครับ